บทที่ 3 การบันทึกไฟล์ : การบันทึกข้อมูล ปรับค่าต่างๆ
การบันทึกข้อมูล ( Save )
ในระหว่างการทำงาน หรือหลังจากการทำงานเสร็จสิ้น การบันทึกผลงานหรือการ Save File เป็นสิ่งที่ควรทำให้เป็นนิสัยในระหว่างการทำงาน เพื่อให้สามารถนำงานชิ้นนั้นกลับมาทำงานต่อได้อีก รวมทั้งเป็นการป้องกันความผิดพลาดบางอย่าง ที่อาจทำให้งานที่ทำอยุ่หายไปเฉยๆ ได้ ( เช่น ไฟฟ้าดับ หรือระบบ OS ของเครื่องล่ม ) โดยปกติเมื่อเราสั่ง Save งานโปรแกรมจะทำการบันทึกงานที่เราทำอยู่เป็น File Format .PSD ( Photoshop Document ) ซึ่งเป็นรูปแบบไฟล์ที่ใช้งานใน Photoshop สามารถที่จะจัดเก็บข้อมูลของงานที่ทำเอาไว้ทุกอย่างโดยไม่มีส่วนใดขาดหายไป สำหรับขั้นตอนในการบันทึกข้อมูลจะมีขึ้นตอนดังนี้
1. คลิกที่ Menu File > Save หรือ กด Ctrl + S
2. กำหนดชื่อ และเลือกที่อยู่ปลายทางในการบันทึกข้อมูล เหมือนกับการบันทึกข้อมูลในโปรแกรมอื่นๆ โดยทั่วไป แล้วคลิกที่ Save เพื่อทำการบันทึก
Save Option
ในขั้นตอนการบันทึกข้อมูลนั้น ในหน้าต่าง Save ( หรือ Save As ) ในส่วนด้านล่างจะเป็นส่วนของ Save Option ซึ่งจะเป็นส่วนตัวเลือกสำหรับปรับแต่งค่าการบันทึกข้อมูล ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- Save As Copy เป็นการบันทึกงานแบบสำเนาใหม่ออกมาอีกชุดหนึ่งจากงานที่กำลังทำอยู่ โดยงานที่กำลังทำอยู่จะไม่ได้โดนบันทึกไปด้วยจนกว่าจะทำการบันทึก ( Save ) ตัวมันเอง
- Alpha Channel เป็นการบันทึกงานแบบกำหนดให้มีการบันทึกค่า Alpha Channel ( พื้นที่โปร่งใส ) ลงไปในภาพด้วย หากไม่เลือกตัวเลือกนี้พื้นที่ส่วนค่า Alpha Channel ของภาพจะถูกลบทิ้งไปอย่างไรก็ตาม ค่า Alpha Channel นั้นจะมีอยู่ในการบันทึกข้อมูลบางประเภท และบางลักษณะการทำงานเท่านั้น
- Layer เป็นการบันทึกค่าแบบกำหนดให้มีการแยก Layer ของภาพออกจากกัน หากไม่เลือกตัวเลือกนี้ Layer ทั้งหมดของภาพจะถูกรวมกันเป็นิ้นเดียว
- Annotion เป็นการกำหนดให้มีการบันทึก Note หรือข้อความพิเศษที่เรากำหนดขึ้นลงไปในภาพด้วย
- Spot Color เป็นการกำหนดให้มีการบันทึก Spot Color ลงไปในภาพด้วย
- Use Proof Setup เป็นการกำหนดให้มีการบันทึกค่าการปรับแต่งของหน้าจอลงไปในงานด้วย
- ICC Profile เป็นการกำหนดให้มีการบันทึกภาพขนาดเล้กสำหรับแสดงแทนภาพของจริง
- Use Low Case Extension เป็นการกำหนดให้ตั้งชื่อนามสกุลของข้อมูลเป็นตัวอักษรตัวเล็ก
การบันทึกข้อมูลเป็น ( Save As )
การบันทึกข้อมูลแบบการทำ Save As เป็นการบันทึกข้อมูลแบบแยกข้อมูลที่จะบันทึกออกมาเป็นข้อมูลใหม่อีกตัวหนึ่ง โดยขั้นตอนอื่นๆ ในการทำงานหรือผลที่ได้นั้นจะไม่ต่างไปจากกานบันทึกข้อมูลแบบปกติ ซึ่งในบางเงื่อนไขการทำงาน โปรแกรมจะบังคับให้เราบันทึกข้อมูลแบบ Save As แทนการบันทึกแบบปกติอยู่แล้ว สำหรับการบันทึกแบบ Save As สามารถทำได้โดยการคลิกที่ Menu File > Save As
Tip & Trick : Menu File > Save สามารถกดคีย์ลัดได้คือ Shift + Ctrl + S
การบีบอัดข้อมูล ( Encoding , Compress )
ปัญหาของข้อมูลภาพแบบ Raster หรือ Bitmap ที่มีการจัดเก็บภาพด้วยการจำ Pixel สีของภาพนั้น จะมีขนาดใหญ่และสิ้นเปลืองพื้นที่จัดเก็บ ( ภาพยิ่งสวยยิ่งละเอียด จะมีขนาดที่ใหญ่และเปลืองพื้นที่ในการเก็บ )
ดังนั้นจึงมีการพัฒนารูปแบบการบีบอัดข้อมูลภาพให้มีขนาดเล็กลงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยที่จะพยายามรักษารายละเอียดของภาพเอาไว้ให้ได้มากที่สุด สำหรับ Photoshop นั้นเราแบ่งการบีบอัดข้อมูลออกเป็น 5 วิธีหลักด้วยกัน คือ
1. Run Length Encoding ( RLE ) เป็นการบีบอัดข้อมูลแบบไม่มีการสูญเสียข้อมูลของภาพ ซึ่งมักใช้งานในการบันทึกงานแบบ PSD ( Photoshop ) หรือ TIFF
2. Lemple - Zif - Welch ( LZW ) เป็นการบีบอัดข้อมูลแบบไม่มีการสูญเสียข้อมูลของภาพอีกแบบหนึ่ง มักใช้กับการบันทึกข้อมูลแบบ TIFF , PDF , PNG หรือ EPS
3. Join Photographic Experts Group ( JPEG ) เป็นการบีบอัดข้อมูลภาพแบบเสียรายละเอียดของภาพ โดยเราสามารถกำหนดระดับในการบีบอัดได้ การบีบอัดข้อมูลแบบ JPEG นี้เหมาะกับการใช้งานกับภาพที่มีลักษณะเป็นภาพถ่าย หรือภาพที่มีรายละเอียดของสีมากๆ
4. CCITT Encoding เป็นการบีบอัดข้อมูลแบบไม่มีการสูญเสียข้อมูลของภาพอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานกับภาพขาวดำ มักใช้ในการบันทึกงานแบบ PDF และ ESP
5. Zip Encoding เป็นการบีบอัดข้อมูลแบบไม่มีการสูญเสียข้อมูลของภาพ